Test Drop drown



คริสมาสต์นี้ให้ตุ๊กตาล้อเลียน



จากแนวคิดที่ทำให้ของขวัญที่ถูกใจผู้รับ ซึ่งต้องเป็นสิ่งของที่พิเศษ และเหมาะสมกับผู้รับแต่ละคนจริงๆ ดังนั้นผู้ให้จำเป็นต้องทำขึ้นเอง ซึ่งจะสามารถแต่งแต้มจินตนาการและความชอบส่วนตัวของผู้รับลงไปในของขวัญชิ้นนั้นได้ จึงเป็นที่มาของตุ๊กตาล้อเลียน ที่สามารถสื่อถึงบุคลิกและนิสัยของผู้รับได้เป็นอย่างดี

นุชนาถ กัญจนิตานนท์ เจ้าของไอเดียตุ๊กตาล้อเลียน ภายใต้แบรนด์ ?Zagai 2002? เล่าว่า เกิดจากการมองหาของขวัญให้เพื่อน ซึ่งต้องเป็นของที่ถูกใจทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ด้วยความบังเอิญไปขวดใส่น้ำหอมที่ทำเป็นตุ๊กตาญี่ปุ่นขนาดเล็ก จึงเกิดความคิดที่ว่า หากนำมาดัดแปลง หรือทำให้มีขนาดใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนรูปร่างหน้าตา ให้แฝงความตลกขบขัน ล้อเลียนเพื่อนท่าทางของผู้รับ ก็น่าจะเป็นความคิดที่ดี จึงได้ให้เพื่อนที่มีความรู้พื้นฐานด้านศิลปะ โดยเฉพาะการปั้นมาลองทำเป็นตุ๊กตาล้อเลียนขึ้น


ธุรกิจ ?ตุ๊กตาล้อเลียน? ได้เริ่มวางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2541 โดยเกิดจากการรวมตัวของกลุ่มเพื่อนที่มีเชี่ยวชาญด้านศิลปะ ซึ่งการจะทำให้แบรนด์ ?Zagai 2002? เป็นที่รู้จักให้ลูกค้า ทางร้านจึงได้เริ่มจากการปั้นตุ๊กตาล้อเลียนกับคนที่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปก่อน เช่น นายชวน หลีกภัย, ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ , คุณหญิงหมอพรทิพย์ โรจนสุนันท์ และนายจอร์ช ดับเบิลยู บุช เป็นต้น ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก


?ในช่วงแรกเราได้วางขายตามมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยอาศัยการบอกปากต่อปาก และยังได้มีการขายผ่านทางอินเทอร์เน็ตบ้าง จนมาช่วงหลังมีผู้สนใจรับเป็นตัวแทนจำหน่าย แต่เนื่องจากสินค้ามีข้อจำกัดอยู่หลายประการที่นอกจากจะให้ตัวแทนจำหน่ายขายตุ๊กตาที่เป็นบุคคลสำคัญแล้ว ยังจะต้องให้ข้อมูลกับลูกค้าถึงการเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ผู้ผลิตสามารถปั้นหน้าตุ๊กตาให้เหมือนคนทั่วไปได้ ซึ่งในช่วงแรกถือเป็นการยากที่จะทำการตลาดด้านนี้?


ส่วนในเรื่องของราคา ทางร้านจะผลิต 2 ขนาด คือ 6 นิ้ว ราคา 1,200 บาท และขนาด 9 นิ้ว ราคา 2,200 บาท แต่ถ้ามีส่วนที่ต้องตกแต่งเพิ่มเติม ก็คิดราคาเพิ่มไม่มากนัก ซึ่งที่ผ่านมาบางครั้งลูกค้าก็ต้องการขนาดที่แตกต่างจากที่ทำอยู่เดิม ซึ่งถ้างานแน่นมาก และเป็นลูกค้าประจำ ทางร้านก็ยินดีที่จะทำตุ๊กตาล้อเลียนให้ ซึ่งตุ๊กตาล้อเลียนของ Zagai 2002 มีจุดเด่นที่สามารถสร้างความประทับให้กับลูกค้า คือ การใส่ใจในทุกรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องประดับ รูปร่าง ทรงผม และเสื้อผ้า ที่สามารถทำได้เหมือนรูปต้นแบบเลยทีเดียว


?เนื่องจากสินค้าของเรามีราคาค่อนข้างสูง ทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนวัยทำงาน รองลงมาเป็นนิสิต นักศึกษา โดยเราจะสำรวจร้านค้าที่มีทำเลดีๆ เพื่อทำการฝากขาย โดยเฉพาะสถานศึกษา และแหล่งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ๆ ส่วนลูกค้าทางอินเทอร์เน็ตก็พอมีบ้าง โดยซื้อผ่านเว็บไซต์


http://www.sme2you.com/store/goods.php?soi=518 ซึ่งใช้การอีเมล์ภาพตัวอย่างส่งมาให้เป็นแบบ ส่งให้กลุ่มลูกค้ามีความหลากหลาย และเพิ่มมากขึ้น ส่วนร้านที่เป็น ?ชอป? ขณะนี้เราได้เปิดที่ตลาดนัดธนบุรีหรือสนามหลวง 2?
สำหรับขั้นตอนการผลิตถือว่าค่อนข้างยุ่งยาก โดยเฉพาะการทำตุ๊กตาที่เลียนแบบหน้าคนที่ไม่ใช่บุคคลที่มีชื่อเสียง หรือเคยมีแบบไว้แล้ว ก็จะใช้เวลานานในการทำ โดยเริ่มจากการปั้น โดยใช้ดินเยื่อกระดาษ ที่มีลักษณะคล้ายดินน้ำมัน ซึ่งแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนหัว และส่วนตัวของตุ๊กตา เมื่อปั้นเสร็จก็นำไปตากแดดให้แห้งประมาณ 3-4 ชั่วโมง จึงนำมาลงสี เมื่อแห้ง ก็นำตุ๊กตามาวางติดกับฐานไม้ หรือใส่ขวดโหลขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า ซึ่งโดยเฉลี่ยการผลิตตุ๊กตาล้อเลียน 1 ตัว จะใช้เวลาประมาณ 3-4 วัน
แม้ว่าธุรกิจตุ๊กตาล้อเลียนจะประสบความสำเร็จ จนทำให้บางครั้งผลิตให้ลูกค้าแทบไม่ทัน แต่ นุชนาถ ก็ยังไม่หยุดคิดที่จะพัฒนาสินค้าไปเรื่อยๆ รวมถึงยังมีโครงการที่จะขยายตลาดออกสู่ต่างประเทศด้วย โดยขณะนี้อยู่ในช่วงการศึกษาตลาด และเตรียมพร้อมในเรื่องกำลังการผลิตที่จะต้องเพิ่มมากขึ้น หรือการปรับเปลี่ยนขั้นตอนการผลิตที่ให้คงคุณภาพเหมือนเดิมแต่ประหยัดระยะเวลาลง เพื่อให้เพียงพอต่อคามต้องการของตลาด ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานตุ๊กตาล้อเลียนภายใต้แบรนด์ Zagai 2002 จะสามารถขึ้นแท่นเป็นสินค้าส่งออกฝีมือคนไทยได้อย่างแน่นอน

คำอวยพรวันคริสต์มาส


คำอวยพรวันคริสต์มาส

วันคริสต์มาส (christmas day) เป็นวันแห่งความสุข เป็นวันที่มีประวัติยาวนาน ดังที่ได้เล่าประวัติวันคริสต์มาส ไว้ครั้งก่อน ซึ่งเราได้รวบตัวคำอวยพรวันคริสต์มาสภาษาไทย คำอวยพรวันคริสต์มาสเป็นภาษาอังกฤษ ไว้สำหรับทำการ์ดคริสต์มาส ในเทศกาลวันคริสต์มาส อันใกล้จะถึงนี้

ภาพคริสต์มาส สวยๆนี้ก็สามารถนำไปตกแต่งการ์ดอวยพรวันคริสต์มาสได้

คำอวยพรวันคริสต์มาส ภาษาอังกฤษ [English]


Christmas Greetings Wishing you a prosperous New Year! Christmas Greetings

ขออวยพรให้ท่านจงเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟูตลอดปีใหม่

Merry Christmas and Happy New Year
ขออวยพรให้ท่านได้พบแต่สิ่งที่ดีๆ

Season’s Greetings– May love and laughter fill your life at Christmas and throughout the New Year.
เทศกาลแห่งการอวยพร ขออวยพรให้ความรัก และเสียงหัวเราะเติมเต็มชีวิตของคุณ ในวันคริสต์มาสตลอดไปถึงวันปีใหม่

My wishes for Christmas: 1. Joy to the world 2. Good will toward men 3. Pizza on Earth!
สิ่งที่ฉันปรารถนาในวันคริสต์มาสนี้ 1. คนทั่วโลกมีความสุข 2. ผู้คนอยู่กันอย่างสันติ 3.มีพิชซ่าให้กิน (โจ๊ก)

Christmas Cold weather and warm feelings
คริสต์มาสอากาศที่เหน็บหนาวและความรู้ที่อบอุ่น

ข้อมูลจาก Forword Mail

เพลงคริสต์มาส


ลักษณะของเพลงเป็นแบบสง่า เน้นถึงความหมายของการเสด็จมา ของพระเยซูเจ้า แต่ในศตวรรษที่ 12 ได้มีวิวัฒนาการใหม่ในด้านเพลงนี้ เริ่มในประเทศอิตาลี โดยนักบุญฟรังซิส อัสซีซี และนักบวชคณะฟรังซิสกัน เป็นผู้มีส่วนในการสนับสนุน ให้มีเพลงคริสต์มาสแบบใหม่ ซึ่งชาวบ้านชอบ คือมีท่วงทำนองที่ร่าเริงกว่า และเน้นถึงความชื่นชมยินดี ในโอกาสคริสต์มาสนี้ เพลงเหล่านี้เป็นภาษาลาติน และภาษาพื้นเมือง เพลงหนึ่งที่แต่งในสมัยนั้น (แต่งคำร้องในปี ค.ศ.1274) และยังใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน คือ เพลง Oh Come, All Ye Faithful หรือ Adeste Fideles ในภาษาลาติน เพลงคริสต์มาส ที่เรานิยมร้องมากที่สุดในปัจจุบันได้แต่งขึ้นในศตวรรษที่ 19 จากประเทศเยอรมัน และประเทศอังกฤษเป็นส่วนใหญ่ เพลงที่มีชื่อเสียงมากได้แก่ เพลง Silent Night, Holy Night ความเป็นมาของเพลงนี้คือ วันก่อนวันฉลองคริสต์มาส ของปี ค.ศ.1818 คุณพ่อโจเซฟ โมห์ เจ้าอาวาสวัดที่โอเบิร์นดอฟ ประเทศออสเตรีย ได้ข่าวว่าออร์แกนในวันเสีย ทำให้วงขับร้อง ไม่สามารถร้องเพลงตามที่ซ้อมไว้ได้ คุณพ่อเองตั้งใจ จะแต่งเพลงคริสต์มาสใหม่ หลังจากแต่งเสร็จ ก็เอาไปให้เพื่อนคนหนึ่งชื่อ ฟรานซ์ กรูเบอร์ ที่อยู่หมู่บ้านใกล้เคียงใส่ทำนอง ในคืนวันที่ 24 นั้นเอง สัตบุรุษวัดนี้ ก็ได้ฟังเพลง Silent Night เป็นครั้งแรก โดยการเล่นกีตาร์ประกอบการขับร้อง ซึ่งกลายเป็นเพลงที่นิยมมากที่สุดทั่วโลก


zabzaa.com

ซานตาคลอส


ซานตาคลอส เป็นจุดเด่นหรือสัญลักษณ์ ที่เด็กและผู้คนนิยมมากที่สุด ในเทศกาลคริสต์มาส แต่แท้ที่จริงแล้ว ซานตาคลอส แทบจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้เลย ชื่อซานตาคลอส มาจากชื่อนักบุญนิโคลาส ซึ่งเป็นนักบุญที่ชาวฮอลแลนด์นับถือ เป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของเด็กๆ นักบุญองค์นี้ เป็นสังฆราชของไมรา (อยู่ในประเทศตุรกี ปัจจุบัน) มีชีวิตอยู่ราวศตวรรษที่ 4 เมื่อชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่ง อพยพไปอยู่ในสหรัฐ ก็ยังรักษาประเพณีนี้ไว้ คือ ฉลองนักบุญนิโคลาส ในวันที่ 6 ธันวาคม ซึ่งหมายถึง นักบุญนี้จะมาเยี่ยมเด็กๆ และเอาของขวัญมาให้ เด็กอื่นๆ ที่ไม่ใช่ลูกหลานของชาวฮอลแลนด์ ที่อพยพมา ก็รู้สึกอยากมีส่วนร่วมในประเพณีแบบนี้บ้าง เพื่อรับของขวัญ ประเพณีนี้ จึงเริ่มเป็นที่รู้จัก และแพร่หลายไปในอเมริกา โดยมีการเปลี่ยนแปลง บางอย่างคือ ชื่อนักบุญนิโคลาส ก็เปลี่ยนเป็นซานตาคลอส และแทนที่จะเป็นสังฆราช ซึ่งเป็นนักบุญ องค์นั้น ก็กลายเป็นชายแก่ที่อ้วน ใส่ชุดสีแดง อาศัยอยู่ที่ขั้วโลกเหนือ มีเลื่อนเป็นพาหนะ มีกวาง เรนเดียร์ลาก และจะมาเยี่ยมเด็กทุกคนในโลกนี้ ในโอกาสคริสต์มาส โดยลงมาทางปล่องไฟ ของบ้าน เพื่อเอาของขวัญมาให้เด็กเหล่านั้น อันที่จริง ซานตาคลอสเป็นรูปแบบที่น่ารัก เหมาะสำหรับเป็นนิยายให้เด็กๆ เชื่อ แต่อาจจะทำให้คนทั่วไปหันมาสนใจ ให้ความสำคัญในตัวนิยายนี้ แทนการบังเกิดของพระเยซูเจ้า ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของเทศกาลคริสต์มาสนี้


zabzaa.com

เกี่ยวกับต้นคริสต์มาส


ในสมัยโบราณ "ต้นคริสต์มาส" หมายถึง ต้นไม้ในสวนสวรรค์ ซึ่งอาดัมและเอวาไปหยิบ ผลไม้มากิน และทำบาป ไม่เชื่อฟังพระเจ้า (ปฐก.3:1-6) ตั้งแต่ศตวรรษที่ 11 ชาวคริสต์แสดงละครที่ หน้าวัด ถึงความหมายของคริสต์มาส และเอาต้นไม้ต้นหนึ่งไว้ตรงกลาง เพื่อประดับฉาก แสดงถึงบาปกำเนิดของอาดัมและเอวา ต้นไม้ที่ใช้เป็นต้นสน เนื่องจากเป็นต้นไม้ ที่หาง่ายที่สุด ในประเทศ เหล่านั้น การแสดงละครคริสต์มาสแบบนี้ มีมาเป็นเวลาช้านานหลายร้อยปี จนถึงศตวรรษที่ 15 พระสังฆราชหลายแห่งได้ห้ามแสดง เนื่องจากการแสดงนั้น กลายเป็นการเล่นเหมือนลิเก ล้อชาวบ้าน ผู้ปกครองบ้านเมือง และศาสนา ซึ่งไม่ตรงกับบรรยากาศของการฉลอง ชาวบ้านรู้สึกเสียดาย ที่ไม่มีโอกาส ดูละครสนุกๆ แบบนั้นอีก จึงไปสนุกกันที่บ้านของตน โดยเอาต้นไม้มาไว้ที่บ้าน หลังจากนั้น ก็เริ่มมีการแขวนลูกแอปเปิ้ล ขนมและของขวัญอย่างที่เห็นอยู่ ทุกวันนี้ .....นอกจากนั้น ชาวเยอรมันยังมีประเพณีอีกอย่างหนึ่งคือ มีการจุดเทียนหลายเล่มเป็นรูปปิรามิด ไว้ตลอดคืนคริสต์มาส โดยมีดาวของดาวิดที่ยอดปิรามิด ซึ่งประเพณีที่จะแขวนของขวัญและขนม ก็ได้รวมกับประเพณีของชาวเยอรมันนี้ มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเอาเทียนมาไว้ที่ต้นไม้ เป็นรูปทรงปิรามิด นี่เป็นที่มาของประเพณีปัจจุบัน ที่มีการแขวนของขวัญ และไฟกระพริบไว้ที่ต้นคริสต์มาส และมีดาวของดาวิดไว้ที่สุดยอด ประเพณีนี้ เป็นที่นิยมชมชอบของชาวตะวันตกอยู่มาก แม้ว่าประเพณีการตั้งต้นคริสต์มาส มีความเป็นมาดังกล่าว ชาวคริสต์ในสมัยนี้ ก็ยังนิยมทำกันอยู่ เพราะเห็นว่า มีความหมายถึงพระเยซูเจ้า ผู้เปรียบเสมือนต้นไม้แห่งชีวิต (ปฐก.2:9) ที่เขียวสดเสมอในทุกฤดูกาล ซึ่งหมายถึง นิรันดรภาพของพระเยซูเจ้า และนอกจากนั้นยังหมายถึง ความสว่างของพระองค์ เสมือนแสงเทียนที่ส่องในความมืด ทั้งยังหมายถึง ความชื่นชมยินดี และความสามัคคี ที่พระเยซูเจ้าประทานให้ เพราะต้นไม้นั้น เป็นจุดรวมของครอบครัวในเทศกาลนั้น


zabzaa.com

ประวัติวันคริสต์มาส


คำว่า คริสต์มาส ภาษาอังกฤษเขียนว่า Christmas ดังนั้นอย่าลืม "ต์" อยู่ที่คำว่า คริสต์ (Christ) ไม่ใช่คำว่า "มาส" (Mas) Christmas มาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า โดยพบคำนี้ครั้งแรกในเอกสารโบราณในปี ค.ศ.1038 ภายหลังแปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas ประวัติความเป็นมาของวันคริต์มาส ซึ่งเป็นวันเกิดของพระเยซูนั้น ตามหลักฐานในพระคัมภีร์บันทึกไว้ว่า พระเยซูเจ้าประสูติในสมัยที่จักรพรรดิซีซ่าร์ ออกัสตัส แห่งโรมัน ซึ่งทรงสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน โดยฝ่ายคีรีนิอัส เจ้าเมืองซีเรียก็ขานรับนโยบาย อย่างไรก็ตามในพระคัมภีร์ ไม่ได้ระบุว่า พระเยซูประสูติวันหรือเดือนอะไร ด้านนักประวัติศาสตร์วิเคราะห์ว่า เดิมทีวันที่ 25 ธันวาคม เป็นวันที่จักรพรรดิเอาเรเลียนแห่งโรมัน กำหนดให้เป็นวันฉลองวันเกิดของสุริยเทพ โดยตั้งแต่ปีค.ศ.274 ชาวโรมันซึ่งส่วนใหญ่นับถือเทพเจ้าฉลองวันนี้เสมือนว่า เป็นวันฉลองของพระจักรพรรดิไปในตัวด้วย เพราะจักรพรรดิก็เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้ความสว่างแก่ชีวิตมนุษย์ แต่ชาวคริสต์ที่อยู่ในจักรวรรดิโรมัน รวมถึงชาวโรมันที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์อึดอัดใจที่จะฉลองวันเกิดของสุริยเทพ จึงหันมาฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้าแทน หลังจากที่ชาวคริสต์ถูกควบคุมเสรีภาพทางศาสนาตั้งแต่ปีค.ศ.64-313 จนถึงวันที่ 25 ธันวาคม ปีค.ศ.330 ชาวคริสต์จึงเริ่มฉลองคริสต์มาสอย่างเป็นทางการและเปิดเผย สำหรับองค์ประกอบในงานฉลองวันคริสต์มาสมีความเป็นมาเช่นกัน เริ่มที่คำอวยพรว่า Merry Christmas สุขสันต์วันคริสต์มาส คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ จึงเป็นคำที่ใช้อวยพรคนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส ต่อมาคือ "เพลง" ที่ใช้เฉลิมฉลองทั้งจังหวะช้าและจังหวะสนุกสนาน ส่วนใหญ่แต่งในยุคพระราชินีวิกตอเรียแห่งอังกฤษ (ค.ศ.1840-1900) ปัจจุบันแพร่หลายไปทั่วโลกโดยแปลเป็นภาษาต่างๆ มากมาย สำหรับ "ซานตาคลอส" เซนต์นิโคลัสแห่งเมืองมีรา สมัยศตวรรษที่ 4 ได้รับการขนานนามให้เป็นซานตาคลอสคนแรก เพราะวันหนึ่งท่านปีนขึ้นไปบนหลังคาบ้านของเด็กหญิงยากจนคนหนึ่งแล้วทิ้งถุงเงินลงไปทางปล่องไฟ บังเอิญถุงเงินหล่นไปทางถุงเท้าที่เด็กหญิงแขวนตากไว้ข้างเตาผิงพอดี ปิดท้ายที่ต้นคริสต์มาส หรือต้นสนที่นำมาประดับประดาด้วยดวงไฟหลากสีสัน ต้องย้อนไปศตวรรษที่ 8 เมื่อเซนต์บอนิเฟส มิชชันนารีชาวอังกฤษที่เดินทางไปประกาศเรื่องพระเจ้าในเยอรมนี ได้ช่วยเด็กที่กำลังจะถูกฆ่าเป็นเครื่องสังเวยบูชาที่ใต้ต้นโอ๊ก โดยเมื่อโค่นต้นโอ๊กทิ้งก็ได้พบต้นสนเล็กๆ ต้นหนึ่งขึ้นอยู่โคนต้นโอ๊ก ท่านจึงขุดให้คนที่ร่วมพิธีกรรมเหล่านั้นเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของชีวิต และตั้งชื่อว่า ต้นกุมารพระคริสต์ ต่อมามาร์ติน ลูเธอร์ ผู้นำคริสตจักรชาวเยอรมัน ตัดต้นสนไปตั้งในบ้านในเดือนธันวาคม ปีค.ศ.1540 หลังจากนั้นในศตวรรษที่ 19 ต้นคริสต์มาสจึงเริ่มแพร่ไปสู่ประเทศอังกฤษและทั่วโลก คริสต์มาส คือการฉลองการบังเกิดของพระเยซูเจ้า เราเฉลิมฉลองกันในวันที่ 25 ธันวาคม คำว่า คริสต์มาส เป็นคำทับศัพท์ภาษาอังกฤษ Christmas ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษโบราณว่า Christes Maesse ที่แปลว่า บูชามิสซาของพระคริสตเจ้า เพราะการร่วมพิธีมิสซา เป็นประเพณี สำคัญที่สุด ที่ชาวคริสต์ถือปฎิบัติกันในวันคริสต์มาส คำว่า Christes Maesse พบครั้งแรกในเอกสาร โบราณ เป็นภาษาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1038 และคำนี้ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นคำว่า Christmas คำทักทายที่เราได้ฟังบ่อย ๆ ในเทศกาลนี้คือ Merry Christmas คำว่า Merry ในภาษาอังกฤษโบราณ แปลว่า สันติสุขและความสงบทางใจ เพราะฉะนั้น คำนี้จึงเป็นคำที่ใช้อวยพร คนอื่น ขอให้เขาได้รับสันติสุข และความสงบทางใจ เนื่องในโอกาสเทศกาลคริสต์มาส


zabzaa.com
 

Provide you anniversary gift © 2008. Design By: SkinCorner